facebook/happynucha
e-mail: happynucha.shop@gmail.com

ย้ายบล็อกแล้ว.... ผลิตภัณฑ์บางตัวไม่ได้ใช้แล้วเน้อ

ย้ายบล็อกแล้ว.... 
ผลิตภัณฑ์บางตัวไม่ได้ใช้แล้วเน้อ
http://happyacne2you.blogspot.com/

การรักษาหลุมสิวด้วย เดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) ปลอดภัยจริงหรือไม่

สวัสดีครับทุกคน ช่วงนี้มีหลายคนเข้ามาปรึกษาปัญหาหลุมสิวกับนุชาจำนวนมาก
มีอาการหน้าพังจากการรักษาหลุมสิวก็มี แต่เคสที่นุชาได้ปรึกษาและพูดคุยที่มีปัญหาเยอะที่สุดได้แก่ กลุ่มคนที่รกษาหลุมสิวด้วยตนเอง โดยการใช้ เดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) หรือ การใช้ลูกกลิ้งเข็มกลิ้งลงบนผิวเพื่อรักษาหลุมสิวครับ 

ต้องบอกให้เข้าใจก่อนนะครับว่าการขาย เดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) ในประเทศไทยของเรามันผิดกฎหมายบ้านเราครับ ทาง อย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ยังไม่ให้การรับรอง ที่เห็นขายกันอยู่และใช้กันคือผิดกฏหมายนะครับ 


มาทำความรู้จักกับ เดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) กันก่อน

 นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวให้ข้อมูลว่า


“เดอร์มาโรลเลอร์คือ ลูกกลิ้งครับ เป็นลูกกลิ้งเล็กๆ แล้วก็มีการติดเข็มแหลมๆ เต็มไปหมด การพัฒนาเดอร์มาโรลเลอร์ เขาอาศัยหลักการที่ว่า เวลาที่ผิวโดนเข็มตำ เมื่อเกิดการบาดเจ็บแล้ว ผิวของเราจะซ่อมแซมตัวเองขึ้นมาได้ เหมือนเราโดนมีดบาด พอบาดปุ๊บ ร่างกายก็จะสมานตัวเอง สร้างคอลลาเจน (Collagen) มาทดแทน เพื่อปิดบาดแผลนั้นๆ จึงมีคนหัวดีพยายามคิดว่า ถ้าเราเอาเข็มมาตำๆ ที่ใบหน้า ทำให้เกิดแผลเยอะๆ ร่างกายก็จะซ่อมแซมตัวเอง ผิวจะซ่อมแซมตัวเอง ทำให้เกิดคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เขาก็เลยผลิตเจ้าเดอร์มาโลเลอร์นี้ขึ้น เป็นเข็มลูกกลิ้ง กลิ้งไปกลิ้งมาบนใบหน้า เพื่อทำให้เกิดแผลเล็กๆ ขึ้น แล้วก็คาดหวังว่า ผิวหนังจะซ่อมแซมตัวเอง ทำให้ได้ผิวใหม่ที่มีคอลลาเจนเยอะขึ้น
       

จึงมีการนำเดอร์มาโรลเลอร์ มาใช้รักษาพวกริ้วรอย รักษาแผลเป็นหลุมสิว แต่ต้องเรียนว่า อันนี้มันเป็นความเข้าใจ เป็นทฤษฎีว่าใช้เดอร์มาโรลเลอร์แล้ว จะทำให้เนื้อคอลลาเจนเพิ่มขึ้นได้ แต่ในทางการแพทย์ยังไม่พบว่า มีการศึกษาในเชิงวิทยาศาสตร์ฉบับใดยืนยันว่าการใช้เดอร์มาโรลเลอร์จะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งสองนี้ได้”
       
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์
ป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านรักษาโรคผิวหนัง ฝึกอบรมเพิ่มเติมทางด้าน ศัลยกรรมและเลเซอร์ผิวหนัง การรักษาความงามของผิวพรรณที่University of Miami ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Tokyo University ประเทศญี่ปุ่น แล้วกลับมาเป็นแพทย์ประจำที่สถาบันโรคผิวหนัง และดูแลรักษาผู้ป่วยที่รพ.พญาไท 2 นานกว่า 13 ปี

คุณหมอท่านขยายความต่อ ว่าภัยอันตรายข้อสำคัญของเดอร์มาโรลเลอร์ อยู่ที่การใช้เข็มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้กับสาวนางไหนบ้างก็ม่ายรู้... ผ่านมากี่หน้า โดนมากี่แผล กว่าจะมาถึงหน้าเราละเนี้ย!
       
“การใช้เดอร์มาโรลเลอร์ มันก็มีปัญหาครับ เนื่องจากมันเป็นเข็มตำ ทำให้เกิดเลือดออก เพราะฉะนั้นเวลาทำ จะต้องทำด้วยความสะอาด ทำด้วยการปราศจากเชื้อ เพราะหากใช้เข็มสกปรก ไม่ทำให้ปราศจากเชื้อ ตำไปมันจะเกิดการติดเชื้อได้
       
ถ้าใครเคยเห็นเดอร์มาโรลเลอร์ของจริง มันจะเป็นพลาสติกติดเข็มในต่างประเทศ เขาออกแบบมาเพื่อให้ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่บ้านเราด้วยความประหยัด ด้วยความหัวดี ก็ไม่ยอมใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่เป็นการใช้แล้วเอาไปล้าง จะเอาไปนึ่งก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นพลาสติก เมื่อโดนความร้อนจะละลาย จะเอาไปทำความสะอาดด้วย ระบบสเตอริไรส์ อบแก๊ส ก็มีแต่เฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ คลินิกก็มักจะไม่มีระบบอย่างนี้ เขาก็เลยต้องใช้วิธีแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นน้ำยาที่บริษัทผู้ขายเขาโฆษณาว่าใช้ได้ แต่ในความจริงไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ 100% 


ทางคลินิกก็จะเอาเดอร์มาโรลเลอร์ไปแช่น้ำยาแบบนั้น แล้วทำให้แห้ง จากนั้นก็เอามาใช้ใหม่ ซึ่งตรงนี้ เป็นข้อที่ต้องระวังมาก เพราะบางที่เอาไปใช้ข้ามคน น่ากลัวมาก ไม่รู้ติดเอดส์หรือเปล่า แต่ถึงแม้ใช้ในคนๆ เดิมก็ตาม แต่ปัญหาคือ เรามั่นใจมั้ยว่าความสะอาดมันจะได้ 100% ทุกครั้ง อันนี้คือข้อที่ต้องระวัง”
       

หวั่นว่าจะติดเชื้อจากการใช้ซ้ำยังไม่พอ คุณหมอจินดาบอกถึงความเสี่ยงน่าสยองต่อมาว่าคือการที่หลายสถานบริการมักแนะนำว่า หลังจิ้มเข็มลงหน้าจนเป็นแผลเลือดซึมแล้ว ควรใส่วิตามิน เติมสารนู่นนี่เข้าไป เพราะจะซึมลึกถึงผิวได้ดียิ่งขึ้น ทว่าแท้จริงแล้วมันกลับเป็นการยิ่งเพิ่มความระคายเคืองให้กับผิวต่างหาก

       
“ปัญหาต่อมาคือ พอกลิ้งเข็มเดอร์มาโรลเลอร์แล้ว บางสถานบริการ มีการแนะนำให้เติมวิตามิน (Vitamin) ทาสารบางอย่าง โดยอ้างว่า เมื่อเวลามีเข็มตำไปแล้วจะเกิดรู สารวิตามินเหล่านี้จะลงไปในผิวได้ดีขึ้น อันนี้ต้องระวังให้มากครับ เพราะผิวเราเป็นเกราะที่ดี แข็งแรงมากที่สุดอยู่แล้ว เมื่อเราไปทำลายเกราะนั้น ทำให้เกิดแผล แล้วยังเอาสารเอาวิตามินอะไรไม่รู้ทาเข้าไปอีก มันอาจจะเกิดอาการแพ้และระคายเคืองเพิ่มขึ้นมาได้
       

พราะฉะนั้นหลักๆ ของเดอร์มาโรลเลอร์ ที่ต้องตระหนักคือ 
  • หนึ่ง-ประสิทธิภาพของมัน ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าได้ผลดีแค่ไหน 
  • สอง-อาจจะมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาว่า ทางอย.ไม่อนุญาตให้สถานบริการใช้เดอร์มาโรลเลอร์ในการบริการแก่ประชาชน ถ้าใครใช้ ถือว่าฝ่าฝืน หรืออาจจะเป็นการแอบใช้” 



คำแนะนำและทัศนคติของนุชาต่อการทำ เดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) 

นุชาเข้าใจทุกคนที่เป็นสิวและผ่านการรักษาหลุมสิวดีครับ ว่าทุกคนมีความทุกข์แค่ไหน 
นุขาเองเมื่อสิวหายแล้วก็เป็นหลุมสิวหนักเหมือนกันครับ แม้ว่ามองไกลๆ จะไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
แต่เมื่อเราส่องกระจกหรือไปเจอใคร เราไม่มีความเข้าใจเลย

แต่นุชาจะเลือกเสมอกับอะไรที่ปลอกภัยกับผิว แม้ว่าการลงทุนจะมากหน่อยแต่เราสามารถคาดหวังผลลัพธ์ได้ครับ ในปัจจุบันมีนวัฒกรรมก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในการรักษาสิว ปัจจุบันที่ให้การยอมรับมากที่สุดก็คือการใช้เลเซอร์ในการรักษา ปลอดภัยและสามารถให้ผลลัพธ์ที่สามารถมั่นใจว่าอย่างน้อยก็ดีขึ้นครับ

เหตุผลที่นุชาไม่เลือกทำเดอร์มาโรลเลอร์ (Derma Roller) 

  • ทำให้ผิวเกิดการติดเชื้อได้หากทำไม่ถูกวิธี
  • หน้าบอบบางแพ้ง่ายได้
  • ไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์หรือคาดว่าจะดีขึ้นได้จริง
  • ผิดกฏหมายในประเทศไทย 
  • เคสศึกษาที่เห็นผลลัพธ์เป็นตัวเป็นตนในไทยไม่มีซักราย
  • มีเทคโนโลยีที่ได้ผลและปลอดภัยกว่าและปัจจุบันราคาไม่ได้แพงเหมือนในอดีตแล้ว

ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์.(2554) . 5/11/2558 , http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9540000136400

REVIEW : การทานน้ำมันงานม่อนเพื่อรักษาสิว

นุชาเลือกทานแบบสกัดเย็น เพราะราคาถูกกว่าแคปซูล

สวัสดีครับ ติดค้างมานานสำหรับการรีวิวผลการทดลองทานน้ำมันงาม่อน เพื่อหวังผลการรักษาสิว ซึ่งทานตอนสิวเห่อ พอดิบพอดี พอดีมีเพื่อนๆ พี่ๆ ใน Facebook ได้ไปเจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ร้านขายของ ขายครีมบ้าง เลยเกิดความสงสัยว่ารักษาสิวได้จริงรึเปล่า?

เนื่องจากนุชาเป็นคนเชียงรายนุชาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับงาม่อนเป็นอย่างดี เพราะที่บ้านคุณแม่ของนุชานั้นจะเอางาม่อนมาตำและผสมปั้นๆ กับข้าวเหนียวเติมเกลือเล็กน้อย รสชาติออกหวานเค็มกลมกล่อมพอดี ซึ่งจะมีทนกันเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น นุชาเพิ่งมาศึกษาข้อมูลตอนนี้พบว่า งาม่อนสามารถช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เพราะงาม่อนค่อนข้างมีฤทธิ์ที่อุ่น..ไปจนถึงร้อนเลย ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านในภาคเหนือจึงนิยมทานงาม่อนสืบมา

ในสมัยนี้เทรนการรักษาสุขภาพมาแรง ซึ่งในปี 2014 นุชาได้ยินมาว่าจะเป็นเทรนของการทานผักเลย จึงเกิดกระแสการผลิตน้ำมันงาม่อนออกมาหลายรูปแบบทั้ง แคปซูล น้ำมันสกัดเย็น แปรรูปเป็นขนมอบกรอบ ซึ่งผู้รับประทานต่างก็พึ่งหวังว่าสุขภาพของตนเองจะดีขึ้น

ก่อนจะสรุปผลการทดลองทานน้ำมันงาขี้ม่อนและคำแนะนำในการทาน นุชานำเสนอบทความเกี่ยวกับประโยชน์ของงาม่อนดังนี้นะครับ

งาขี้ม้อน    ชื่ออื่นๆ     งามขน ,นอ, น่อง

สรรพคุณ

เมล็ด รับประทาน ชูกำลัง ทำให้ร่างกายอบอุ่น แก้ท้องผูก ลดไขมันในเลือด

วิธีใช้  นำเมล็ดงาขี้ม้อน 1 ช้อนชา ชงน้ำดื่ม เช้า -เย็น

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ไวรัส ยาระบาย เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ ลดบวม ลดอุณหภุมิร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอร์ไรด์

รายงานผลการทดลอง

       คศ. 2007 ประเทศสหรัฐอเมริกา การรักษาผู้ป่วยดรคหัวใจ ด้วยสารstatin แต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนเพราะผลข้างเคียงของยา ( side effect)การมีคอเลสเตอรอลมากในร่างกาย จะมีผลข้างเคียงต่อตับ กล้ามเนื้อ ระบบประสาท และทำให้ระบบต่างๆเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ยังพบสาร alpha – lipoic acid และ corosolic acid ในงาขี้ม้อน และใช้รักษาในผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง

       คศ.  2005 ประเทศจีน  ทำการทดลองส่วนผสมต่างๆในการใช้เป็นยารักษาโรคไขมันในเลือด โดยใช้perilla oil 500 ส่วน วิตามินซี 0.05 ส่วน วิตามินอี 0.25 ส่วน นำส่วนผสมทั้งหมดบรรจุในแคปซูล และผ่านออกซิเจนและความชื้นในอากาศ นำแคปวูลดังกล่าวไปใช้รักษาผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย เพราะ docosahexacnoic acid ถุกเปลี่ยนเป็น linolenic acid

       คศ. 2005 ประเทศจีน ได้ทำการศึกษาส่วนผสมของน้ำมันข้าว 0.95 %น้ำมันงาขี้ม้อน 0.50 % edible oil  0.90%แคโรทีน 0-100 ppm. วิตามินอี 0- 100 ppm. ฟอสฟอรัส 0-200 gm/ kg น้ำมันทั้งหมดนี้ ช่วยทำให้สุขภาพผู้ป่วยดีขึ้น ช่วยลดความอ้วน ภูมิคุ้มกันดีขึ้น


สรุป สรุป ผลการทานน้ำมันงาม่อนระยะเวลา 1 เดือน

หลังจากทดลองทานน้ำมันงาแบบสกัดเย็น โดยนุชาทานตอมคู่มือที่ระบุมาคือ 1-2 ช้อนชาต่อวัน ทานสดๆ โดยไม่ผ่านความร้อน ตอนเช้าก่อนอาหาร หรือ หลังอาหารเมื่อนึกได้
ได้ผลดังนี้

  • สิวอักเสบขึ้นน้อยมาก
  • สิวอุดตันไม่เห้นผลอะไรเลย
  • รอยสิวไม่ช่วย

ซึ่งผลการรักษาน่าจะเน้นในเรื่องของการลดการอักเสบของสิวและผิวมากกว่า น่าจะเหมาะกับผู้ที่รักษาสิวตามแนวทางธรรมชาติไม่ต้องการทานยาแก้อักเสบ แต่ผลการทานอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยนะครับ เพราะนุชาได้ทดลองคนเดียว ไม่ได้มีกลุ่มอ้างอิงทดลองทานด้วย

หากผู้ที่สนใจทดลองทานนุชาแนะนำเพิ่มเติมดังนี้
ไม่ควรทานในปริมาณมากกเกินไป น้ำมันงาม่อนเป็นน้ำมันชนิดดีก็จริง หากผู้ทานได้ทานน้ำมันที่ไม่มีประโยนชน์ระหว่างวันร่วมด้วยการทานน้ำมันงาม่อน ณ ตอนนั้นก็ไม่มีผลดีต่อสุขภาพได้ครับ และไม่ควรทานน้ำมันงาม่อน หน้าร้อน หรือในขณะที่ร่างกายมีอุณภูมิสูงหรือมีภาวะร้อนเกินจะไม่ส่งผลดีต่อสิวเลย มิหนำซ้ำอาจจะทำให้สิวของคุณประทุขึ้นหนักกว่าเดิมครับ

"
น้ำมันงาม่อนมีประโยชน์มาก
กินเอามากอาจทำให้เกิดโทษได้
ผู้รับประทานงาม่อนควรศึกษาไว้
เมื่อเข้าใจสุขภาพและสิวจะดีเอย
"

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
งาขี้ม้อน จากหนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด โดย เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก

XOXO
Happy Nucha

ติดตามความเคลื่อนไหวพูดคุยกันได้ที่
Line ID : Happy Nucha
E-mail : happynucha.shop@gmail.com
ติดตามบล็อกสุขภาพ : http://happyacne2you.blogspot.com

กรุงเทพฯ - แม่อาย เพราะสิว...ทำให้เราได้เจอกัน



สวัสดีครับ นุชาไม่ได้เข้ามาอัพเดทบล็อกซะนาน วันนี้นุชาจะมาเล่าเรื่องที่นุชาได้กลับบ้านที่เชียงรายเมื่อ ปลายปี 2556 ที่ผ่านมานี้นะครับ


ตามหัวข้อเลยนะครับ เพราะสิว....ทำให้เราได้เจอกัน ครั้งนี้ที่นุชาได้กลับไปเชียงรายได้ และได้มีโอกาสได้ไปพบกับพี่ที่คุยกันใน Facebook ตลอกเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ฮั่นแน่ เป็นผู้หญิงนะครับ อิอิ ซึ่งตอนแรกที่รู้จักกกันน่าจะจะมาจากที่พี่เขาได้ติดตามนุชาจากการรักษาสิวที่นุชาเคยใช้ผลิตภัณฑ์เมื่อก่อน และก็ได้พูดคุยปรึกษากันมาตลอด จนสนิทสนมกันแบบไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว (เขาว่ากันว่า... คนประเภทเดียวกันจะคุยกันได้0 อันนี้ไม่รู้จริงรึเปล่านะครับ)

สเต็กปลาแซวมอลของพี่ดา
เวลาประมาณ 9.00 ที่นุชานั่งรถจากเชียงรายโดยมีพี่สาวที่ขับรถ ชื่อดา และเพื่อนของพี่ดา ชื่อนุ นั่งไปด้วย เราเดินทางโดยรถยนต์จึงทำให้ระยะเวลาในการเดินทางไป อ.แม่อาย ใช้เวลาไม่นานมากใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง เวลาที่เราเดินทางไปถึงร้านของพี่แพรว พี่สาวที่นุชาได้ติดต่อกันผ่านทาง Facebook ประมาณ 11.30

นุชา พี่นุ พี่ดา

ตอนเจอครั้งแรก นุชาอธิบายไม่ค่อยจะถูกเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่เจอคือเหมือนๆ กันที่เราคุยผ่านทางทางแชทตลอด ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน และดีใจนะที่ได้เจอกัน ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราได้คุยกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตด้วยความจริงใจ จะทำให้เราได้พบกับมิตรภาพดีๆ และความรู้สึกดีๆ แบบนี้ได้


.....อ้อลืมบอกว่าพี่แพรวเปิดร้านสเต็กที่ อ.แม่อาย ชื่อร้าน รีลดาสเต็กเฮ้า อยู่ที่บ้านสันต้นม่วง ใครผ่านไปแวะชิมให้ได้อร่อยจริงๆ ราคามิตรภา่พด้วยนะครับ

สเต็กปลาที่นุชาทาน

นี่คือซุปข้าวโพด นุชาเพิ่งเคยกิน บ้านนนอกปะ อร่อยๆ นะ

พอไปถึงแล้วนุชาได้สั่ง เมนูสเต็กปลา พี่ดาสั่งสเต็กปลาแซวม่อน พี่นุสั่งสเต็กหมู
พี่แพรวได้จัดบารีคิวให้อีก 2 ไม้ ไม่ต้องพูดถึงอร่อยสุดๆ แทบทานไม่หมดกันเลย แต่สุดท้ายก็เหลือแต่ซากครับ 5555+
นุชา พี่แพรว
พอทานเสร็จเราก็ได้นั่งคุยกันซักพัก (เหมืแนไม่มีไรจะคุยอะ) เพราะก่อนหน้านี้เราคุยกันตลอดเพียงแต่ไม่เคยเจอกันเท่านั้นเอง  จากนั้นเราก็ถ่ายรูปเก็บไว้เเป็นที่ละลึก และกอดกัน 1 ครั้ง

ณ ร้าน รีลดาสเต็กเฮ้า อ.แม่อาย
ขอบคุณมิตรภาพดีดีจากใจ
ที่คอยห่วงใยให้กัน
แม้ผ่านคืนและวัน
หวังว่า.....  ซักวัน
เราคงได้เจอกันอีกนะ....



ผิวกายขาวใสด้วยกาแฟ + ขัดเซลล์ลูไลท์ด้วยได้นะเออ




สวัสดีครับกาแฟที่เหลือจากการทำดีท็อกเราเอามาทำอะไรดีน้าาาา

วันนี้ไม่ขอพูดเรื่องสิวน้า แต่จะมาพูดถึงเรื่องผิวกายกันบ้าง สาวๆ หลายคนคงเคยประสบพบเจอกับปัญหาผิวดำด่าง ไม่เสมอกัน หรือ คล้ำเสมอกันเลย และยังมีผิวที่ไม่เรียบเนียน หรือเรียกว่าเซลล์ลูไลท์แล้วกันนะครับ

ทำไมกาแมันทำให้เราผิวสวยได้ล่ะ่หลายคนกำลังสงสัยใช่ไหมครับ เพราะเจ้ากาแฟเนี่ยมีาารคาแฟอีนอยู่ไงละครับ ซึ่งสารคาแฟอีนจะช่วยถนอมผิวและช่วยรักษาผิว ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากกาแฟที่ทำหน้าที่ในการกำจัดสารพิษให้กับผิวชั้นนอกไงละครับ

ดังนั้นการขัดผิวด้วยกากกาแฟจึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก เผยผิวใหม่ที่ขาว เนียนใสกว่า และยังช่วยขับสารพิษออกจากผิว เพราะในกาแฟ มีสาร antioxidant ในปริมาณสูง ช่วยขับสารพิษสำหรับคนที่น้ำเหลืองไม่ค่อยดี กระตุ้นไขมันใต้ชั้นผิวให้เกิดการแตกตัว ควบคุมการจัดเก็บไขมันใต้ชั้นผิวหนังให้เป็นระเบียบ ไม่เกิดเป็นผิวเปลือกส้ม หรือ Cellulite อีกด้วย



สูตรที่นุชาทำประจำ
1. กาแฟ  3-5 ช้อนโต๊ะ  (ตามขนาดของเรือนร่าง)
2.น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ 


ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน  อาบน้ำด้วยน้ำเปล่า 1 รอบ แล้วทีนี้ก็ละแลงขัดเบาๆ ทั่วเรือนร่างที่ห้องน้ำบ้านคุณได้เลย อ้อ สำหรับใครที่ไม่เป็นสิวก็สามารถพอดหน้าได้ครับ แต่คนเป็นสิวไม่เหมาะนะครับไม่งั้นจะเกิดการอุดตันและอักเสบได้ครับ อย่าเด็ดขาดนะ


ขอบจบการนำเสนอเพียงเท่านี้นะครับ
HAPPY NUCHA
https://www.facebook.com/happynuchaShop




อาหารเช้า... อาหารเช้าสำหรับคนขี้เกียจ



สวัสดีครับ วันนี้นุชาตื่นสายไปหน่อยครับ นาฬิกาปลุกไม่ยอมทำงาน (เพราะตั้งเวลาผิด) คิดอยู่นานว่าเช้านี้จะทำอะไรทานดี ก็เลยดื่มน้ำย่านางที่เก็บในตู้เย็นเมื่อวานจนหมดแล้วก็ไปหุงข้าวครับ





วัตถุดิบที่มีในตู้เย็น

1.ย่างนาง  (จะทำอะไรกินได้เน้อ หน่อไม่ก็ไม่มี) อันนี้ผ่าน
2.ปลาทู อันนี้เข้าล็อกทานได้ 

3.แครอท  แอ้ถ้าจะททำยำตอนเช้าไม่เหมาะมั้ง
4.ผักกาดแก้ว  ผักสลัดที่ซื้อมาจากตลาดยิ่งเจริญ 10 บาท ได้ประมาณ 1 กิโลเยอะมากครับ  อันนี้ทานเปล่าได้


ซึ่งเมนูของนุชามีดังนี้


1.ทอดปลาทู
2.ผักกาดแก้ว

3.ข้าวหอมมะลิ

ทีนี้ก็ลงมือหุงข้าวและทอดปลาทูและล้างผักให้สะอาด จัดจานให้เรียบร้อยได้อาหารง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ึครับ


สรุปค่าใช้จ่ายเช้านี้
1.ข้าวฟรี (เอามาจากเชียงราย)

2.ผักกาดแก้วประมาณ 3 บาท เพราะใช้ 1 ต้น
3.ปลาทู 10 บาท

4.ค่าไฟในการหุงข้าว  5 บาท

รวม  18 บาท สำหรับเช้านี้ คุ้มเว่อร์ 







คุณค่าทางอาหารของผักกาดแก้ว

ผักกาดแก้ว 100 กรัม ให้พลังงาน 27 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
โปรตีน 2 กรัม 
คาร์โบไฮเดรต 3.8 กรัม 
แคลเซียม 16 มิลลิกรัม 
ไขมัน 0.4 กรัม 
ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม
เหล็ก 4.9 มิลลิกรัม น้ำ 92.7 กรัม 
ไทอะมิน 0.06 มิลลิกรัม 
ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม 
ไรโบฟลาวิน 0.18 มิลลิกรัม 
เบต้า-แคโรทีน 2,326 ไมโครกรัม 
วิตามินเอรวม 393 RE. 
วิตามินอี 1.82 มิลลิกรัม 
วิตามินซี 24 มิลลิกรัม

สรรพคุณทางยา


     ยาง เป็นยานอนหลับ แก้ไอ แก้เมาเรือ กล่อมประสาท น้ำผักกาดแก้วช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น และในผักกาดแก้วยังมีฮีโมโกลบินที่ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงมีครรถ์ ช่วยต้านมะเร็ง และเป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 3 % หรือน้อยกว่า อีกทั้งยังช่วยแก้อาการท้องผูกได้อีกด้วย





ปลาทูเป็นแหล่งของสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างดี จะเห็นได้ว่า ในปลาทูสด 100 กรัม มีคุณค่าทางสารอาหารคือ

พลังงาน 140 แคลอรี่                
โปรตีน 20 กรัม                            
ไขมัน 6.7 กรัม
แคลเซียม 170 มิลิกรัม              
ฟอสฟอรัส 60 มิลลิกรัม               
เหล็ก 11.9 มิลลิกรัม
วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม          
วิตามินบี2 0.62 มิลลิกรัม             
ไนอะซิน 9.2 มิลลิกรัม
วิตามินซี 9.2 มิลลิกรัม




ข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารในผักกาดแก้วและปลาทู
http://www.oknation.net/blog/Healthpeople/2010/01/05/entry-2
http://www.healththai.com/content_detail.php?id=126





"อาหารง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์สารอาหารครบเลย"





 XOXO
Happy Nucha

สวยแบบมีสติ....ชิช๊ะ ภาค 1



สวัสดีครับสาวๆ นุชาต้องรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงทุกคนนั้นอยากสวยใส ขาวออร่าเปล่งประกาย แต่ในปัจจุบันมีทางเลือกที่หลากหลายมากในการจัดการกับความงาม เพียงคุณเข้าไปคลินิกเสริมความงาม 30-40 นาที คุณก็สวยใสได้ แต่หารู้ไหมว่าความสวยจะอยู่กับคุณๆ ได้ตราบนานเท่าไหนกัน

เอาละจะเข้าเรื่อง หลายๆ คนคงเกิดมาต้องมีสภาพผิวหน้าที่แตกต่างกันออกไป บางคน ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง เป็นสิว สิวเรื้อรัง ฝ้า กระ จุด ด่างดำ บลาๆ เยอะแยะไปหมดกับปัญหาความงามทั้งหลาย

คุณรู้ไหมว่า ไม่มีครีมที่ที่วิเศษที่สุดที่จะรักษาผิวของคุณได้ทุกปัญหา ถึงมีครีมแบบนั้นก็คงไม่ใช่ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยแน่นอน เพราะต้องผสมสารไฮโดรคิวโนน หรือไม่ก็สารปรอทมาให้คุณทาแบบเพียวๆ แน่นอน

ซึ่งการรักษาผิวหน้าให้สวยในแบบที่คุณเป็นก็มีวิธีการที่แสนจะง่ายดายดังนี้

1.อยากหน้าใส = ก็รักษาสิวให้หาย
2.รักษาสิว = รักษาสุขภาพของตนเองและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
3.อยากหน้าขาว = ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทไวเทนนิ่ง และครีมวิเศษที่ขาดไม่ได้คือ "ครีมกันแดด"
4.ผิวแห้ง = ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาความชุ่มชื่นกับผิว
5.ผิวแพ้ง่ายบอบบาง = ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและสูตรที่อ่อนโยน
6.ผิวมัน ผิวผสม = ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและใช้คลินซิ่งเช็ดหน้าก่อนล้างหน้าเพื่อลดการอุดตันของผิวสาเหตุของสิวในอาคต
7.อยากผิวขาว = ใช้ผลิตถัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว ทาครีมกันแดดทุกครั้ง ทานผักผลไม้ ตามวิธีที่นางแบบแนะนำเลย


การที่จะมีผิวที่สุขภาพดีสวยใสแบบดารานั้น แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่สามารถทำได้ภายใน 7 วันแน่นอน เพราะพื้นฐานสุขภาพและผิวของเราไม่เหมือนกัน ฉนั้นต้องสวยแบบใจเย็นนะจะ



XOXO
HAPPY NUCHA