ACNE : ประวัติสิวของ Happy Nucha




เดือนที่ 2


เดือนที่ 3


เดือนที่ 4

จนมาเมื่อปีต้น
2554 นี่แหละครับ ได้มาเจอ พี่บีมเขียนประวัติการรักษาสิวที่ bye-bye2acne.blogspot.com เป็น blog
ที่ให้ข้อมูลปละประสบการณ์การรักษาสิวด้วยตนเองแนวธรรมชาติบำบัดองค์รวมครับ
ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้ปรึกษาพี่บีมและเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีของพี่บีมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลักจากที่ผมได้ปฏิบัติตามคำแนะนำระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ปรากฏว่าสิวไม่ขึ้นใหม่เลย เหลือแต่รอยสิว ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากครับและมั่นใจว่าเป็นวิธีที่สามารถทำได้จริง สิวนั้นเกิดจาก อาหารและพฤติกรรมของผมซึ่งส่งผลทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนสิวถึงไม่หายซักที หากปรับอาหารการดำเนินชีวิตและทำตามวิธีที่พี่บีมแนะนำซะใหม่สิวก็หายได้ครับ
-ระยะเวลาการรักษาๆม่รีบเร่ง บางรายอาจจะไม่หาย ภาย 3 เดือน หรือนานกว่านั้น อยู่ที่ตัวคุณเองที่จะ
ในขั้นตอนของโทนเนอร์นั้น สาวๆบางคนอาจจะใช้สำลี หรือถ้าใครสะดวกก็ใช้มือตบ ๆเอา ณ จุดนี้ ดีขอเพิ่มเติมนิสสสนึง สำหรับสาวๆที่ใช้มือตบ ๆ (เนื่องจากดีเองก็ใช้วิธีนี้ เพราะมันประหยัดดีด้วย 5555+) หลังจากที่เรา เท เหยาะ หรือบีบโทนเนอร์ใส่ฝ่ามืออรหันต์แล้วนั้น ก็บรรเลงตบแปะ ๆ เบา ๆ ลงบนผิวหน้า แต่ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ ระหว่างที่เรารอให้โทนเนอร์แห้งหรือซึมไปในผิวนั้น ขอให้สาว ๆยกนิ้วกลาง และนิ้วนางขึ้นมาเลยค่ะ แล้วก็ใช้ทั้ง 2 นิ้ว ช่วยกันตบๆ ลูบๆไปตามแนวโพรงขนเลยค่ะ สาว ๆ ลองสังเกตดูซิคะว่า ผิวมันดูเนียนขึ้น จริง ๆนะเอออ ^^
แล้วหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของการทาเซรั่ม ครีม กันแดด รองพื้น ไปจนกระทั่งการลงแป้ง ดีก็ขอแนะนำให้สาวๆ ทำไล่ไปตามแนวโพรงขนเหมือนกันนะคะ รับรองเลยค่ะว่าสาวๆจะรู้สึกได้ว่า ผิวดูเรียบเนียนขึ้นจริงๆ น๊าาา
ดีขอเน้นว่าในทุกขั้นตอนนั้น ขอให้สาว ๆ ทำอย่างเบามือนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการ ตบ ลูฐ หรือลงแป้งก็ตาม เพราะอย่าได้เข้าใจผิด ๆ ว่า การทา ทู ขัด หรือตบ แรงๆนั้นจะช่วยทำให้หน้าสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ซึมได้ดีกว่านะคะ นอกจากจะทำให้หน้าช้ำ หรือระคายเคืองแล้ว สาวๆ อาจจะได้ของแถมเป็นหน้าเหี่ยวๆ ตามมาติดๆด้วยนะคะ จะหาว่าคนสวยไม่เตือนน๊า 555+
" ซึ่งวิธีการรักษาสิวสิวนั้นจะมีขั้นตอนรักษาสิวประมาณนี้นะครับ "1.ปรับการดำเนินชีวิตตามนาฬิกาชีวิต
2.ทานอาหารให้ถูกต้อง งดอาหารขยะ เลือกทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
3.ล้างสารพิษในร่างกาย ไม่นำสารพิษใหม่เข้ามา
4.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิวที่เป็นสิว
5.ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
หลักจากที่ผมได้ปฏิบัติตามคำแนะนำระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ปรากฏว่าสิวไม่ขึ้นใหม่เลย เหลือแต่รอยสิว ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากครับและมั่นใจว่าเป็นวิธีที่สามารถทำได้จริง สิวนั้นเกิดจาก อาหารและพฤติกรรมของผมซึ่งส่งผลทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนสิวถึงไม่หายซักที หากปรับอาหารการดำเนินชีวิตและทำตามวิธีที่พี่บีมแนะนำซะใหม่สิวก็หายได้ครับ
"กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว การรักษาสุขภาพ&สิว ก็เช่นเดียวกัน"
มาดูรายละเอียดการรักษาสิวอย่างละเอียดกันเลยครับ
ขั้นตอนการเตรียมรักษาสิวด้วยตนเองตามแนวธรรมชาติบำบัด สิ่งที่จะต้องเตรียมรับมือ?
-การรักษาจะไม่มุ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นหลักแต่จะรักษาโดยวิธีการฟื้นฟูสุขภาพให้มีสุขภาพที่่ดีขึ้น
-ระยะเวลาการรักษาๆม่รีบเร่ง บางรายอาจจะไม่หาย ภาย 3 เดือน หรือนานกว่านั้น อยู่ที่ตัวคุณเองที่จะ
ทำได้ดีแค่ไหน
-คนรอบข้างสามารถเข้าใจแนวทางการรักษาและพร้อมที่จะให้กำลังใจเสมอ (จำเป็นมากที่จะต้องบอกกล่าวคนใกล้ชิดให้ทราบ)
-สิวอาจประทุขึ้นได้ทุกเมื่อ ต้องเตรียมพร้อม (ใจ) สำคัญมากๆ
เอาล่ะครับหากสามารถทำได้มาดูวิธีการรักษากันเลย
เอาล่ะครับหากสามารถทำได้มาดูวิธีการรักษากันเลย
1. สำรวจผลิตภัณฑ์ที่ตนเองใช้อยู่ว่าเหมาะกับตนเองหรือไม่ หากเป็นสิวไม่ควรใช้รองพื้นที่หน๋าควรใช้ที่บางเบาไม่ผสมน้ำมัน หรือ ระบุไว้ใช้สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ และใช้ผลิตถัณฑ์ที่อ่อนโยนมากที่สุดในขณะที่เป็นสิวไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไวเทนนิ่งมาก เพราะเสี่ยงกับการอุดตัน และครีมวิเศษที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ครีมกันแดด" ให้เลือกสูตรบางเบา ไม่อุดตัน
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นุชาใช้ได้ผลในช่วงการรักษาสิวขั้นพื้นฐานที่ควรจะมี
1.3. Klean & Kare Normal Saline Solution หรือว่าน้ำเกลือ ใช้เช็ดหน้าหลังล้างหน้าเสร็จ

1.4.ครีมกันแดด เลือกใช้ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ เพราะทำมาหลากหลายเหลือเกิน ส่วนตัวนุชาใช้ของ MarryBeam ครับ ใช้แล้วไม่อุดตันครับ
สรุปคือ ใช้ผลิตภัณฑ์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ผิวถูกรบกวน
................................
2.หลักการดูแลสุขภาพในขณะรักษาสิว
2.1. อาหารจะเป็นปัจจัยสำคัญมากที่ทำให้ก่อสิวครับ ผู้เริ่มต้นต้อง งดของมัน หวาน มัน มีน้ำตาลเยอะ ขนมปัง อาหารจานด่วนต่างๆ ที่มีผงชูรสเยอะๆ เน้นทานผักปั่น น้ำผลไม้สด เมนู นึ่ง ย่างต้ม ทานเนื้อปลาแทนเนื้อหมูครับ หากใครที่จะต้องการลดน้ำหนักจะได้ผลมากเลยครับ

หลักการทานอาหารที่ควรทำคือ เลือกอาหารที่มีฤทธิ์เย็นครับ เพราะคนเป็นจะมีร่างกายร้อนอยู่มาก
ลองศึกษารายละเอียดได้ที่นี่เลยนะครับ http://health.kapook.com/view19260.html
2.2. การดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามหลักนาฬิกาชีวิตครับ


01.00 น. - 03.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ตับ"
ข้อควรปฏิบัติ : นอนหลับพักผ่อนให้สนิท
อาหารบำรุง : อาหารที่ช่วยล้างพิษ เช่น งา น้ำผลไม้และน้ำสะอาด
03.00 น. - 05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ปอด"
ข้อควรปฏิบัติ : ตื่นนอน สูดอากาศสดชื่น
อาหารบำรุง : อาหารจำพวกเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง เช่น ส้ม ผักใบเขียว น้ำผึ้ง หอมใหญ่
05.00 น. - 07.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้ใหญ่"
ข้อควรปฏิบัติ : ขับถ่ายอุจจาระ
อาหารบำรุง : อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
07.00 น. - 09.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะอาหาร"
ข้อควรปฏิบัติ : กินอาหารเช้า
อาหารบำรุง : ควรมีพลังงานและสารอาหารอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ของปริมาณที่ควรได้รับตลอดวัน
ข้อควรปฏิบัติ : นอนหลับพักผ่อนให้สนิท
อาหารบำรุง : อาหารที่ช่วยล้างพิษ เช่น งา น้ำผลไม้และน้ำสะอาด
03.00 น. - 05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ปอด"
ข้อควรปฏิบัติ : ตื่นนอน สูดอากาศสดชื่น
อาหารบำรุง : อาหารจำพวกเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง เช่น ส้ม ผักใบเขียว น้ำผึ้ง หอมใหญ่
05.00 น. - 07.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้ใหญ่"
ข้อควรปฏิบัติ : ขับถ่ายอุจจาระ
อาหารบำรุง : อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
07.00 น. - 09.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะอาหาร"
ข้อควรปฏิบัติ : กินอาหารเช้า
อาหารบำรุง : ควรมีพลังงานและสารอาหารอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ของปริมาณที่ควรได้รับตลอดวัน
09.00 น. - 11.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ม้าม"
ข้อควรปฏิบัติ : พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
อาหารบำรุง : มันเทศสีแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากบุก
11.00 น. - 13.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"หัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ : หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
อาหารบำรุง : อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดงและผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีต่างๆ
13.00 น. - 15.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้เล็ก"
ข้อควรปฏิบัติ : งดกินอาหารทุกประเภท
อาหารบำรุง : อาหารไขมันต่ำ น้ำสะอาด
15.00 น. - 17.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะปัสสาวะ"
ข้อควรปฏิบัติ : ทำให้เหงื่อออก (ออกกำลังกาย หรือ อบตัว)
อาหารบำรุง : ผลไม้เช่น บิลเบอร์รี่ และทานน้ำสะอาดมากๆ
อาหารบำรุง : มันเทศสีแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากบุก
11.00 น. - 13.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"หัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ : หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
อาหารบำรุง : อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดงและผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีต่างๆ
13.00 น. - 15.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้เล็ก"
ข้อควรปฏิบัติ : งดกินอาหารทุกประเภท
อาหารบำรุง : อาหารไขมันต่ำ น้ำสะอาด
15.00 น. - 17.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะปัสสาวะ"
ข้อควรปฏิบัติ : ทำให้เหงื่อออก (ออกกำลังกาย หรือ อบตัว)
อาหารบำรุง : ผลไม้เช่น บิลเบอร์รี่ และทานน้ำสะอาดมากๆ
17.00 น. - 19.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ไต"ข้อควรปฏิบัติ : ทำตัวให้สดชื่น ไม่ง่วงหงาวหาวนอน
อาหารบำรุง : อาหารที่มีเกลือต่ำ รวมถึงสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า
17.00 น. - 21.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"เยื่อหุ้มหัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ : ทำสมาธิ หรือสวดมนต์
อาหารบำรุง : อาหารจำพวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ รวมถึงวิตามินบีต่างๆ
21.00 น. - 23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ระบบความร้อนของร่างกาย"
ข้อควรปฏิบัติ : ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น
อาหารบำรุง : อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม
23.00 น. - 01.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ถุงน้ำดี"
ข้อควรปฏิบัติ : ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
อาหารบำรุง : อาหารที่มีไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
อาหารบำรุง : อาหารที่มีเกลือต่ำ รวมถึงสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า
17.00 น. - 21.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"เยื่อหุ้มหัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ : ทำสมาธิ หรือสวดมนต์
อาหารบำรุง : อาหารจำพวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ รวมถึงวิตามินบีต่างๆ
21.00 น. - 23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ระบบความร้อนของร่างกาย"
ข้อควรปฏิบัติ : ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น
อาหารบำรุง : อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม
23.00 น. - 01.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ถุงน้ำดี"
ข้อควรปฏิบัติ : ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
อาหารบำรุง : อาหารที่มีไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
...........................................................
2.3 การล้างสารพิษในร่างกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ครับหากทำได้น้อยก็จะเป็นผลกับสิวตามลำดับครับ
ซึ่งแนวทางการล้างพิษจะมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามความสะดวกและเหมาะสมในแบบของตนเองได้เลยครับ การล้างพิษจะมีทั้ง อดเพื่อล้างพิษ ทานอาหารเื่พื่อล้างพิษ และวิธีที่นุชาทำได้ผลดีที่สุดคือสวนลำไส้เพื่อล้างพิษครับ
ซึ่งแนวทางการล้างพิษจะมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามความสะดวกและเหมาะสมในแบบของตนเองได้เลยครับ การล้างพิษจะมีทั้ง อดเพื่อล้างพิษ ทานอาหารเื่พื่อล้างพิษ และวิธีที่นุชาทำได้ผลดีที่สุดคือสวนลำไส้เพื่อล้างพิษครับ

วิธีการทำนั้นสามารถศึกษารายละเอียดได้เลยนะครับ - http://detox.igetweb.com/index.php?mo=3&art=112259
- สวนเพื่อล้างพิษดูได้ที่นี่ครับ คลิกที่นี่
......................................
ล้างหน้าตามแนวโพรงขนลดสิว
ในขั้นตอนของโทนเนอร์นั้น สาวๆบางคนอาจจะใช้สำลี หรือถ้าใครสะดวกก็ใช้มือตบ ๆเอา ณ จุดนี้ ดีขอเพิ่มเติมนิสสสนึง สำหรับสาวๆที่ใช้มือตบ ๆ (เนื่องจากดีเองก็ใช้วิธีนี้ เพราะมันประหยัดดีด้วย 5555+) หลังจากที่เรา เท เหยาะ หรือบีบโทนเนอร์ใส่ฝ่ามืออรหันต์แล้วนั้น ก็บรรเลงตบแปะ ๆ เบา ๆ ลงบนผิวหน้า แต่ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ ระหว่างที่เรารอให้โทนเนอร์แห้งหรือซึมไปในผิวนั้น ขอให้สาว ๆยกนิ้วกลาง และนิ้วนางขึ้นมาเลยค่ะ แล้วก็ใช้ทั้ง 2 นิ้ว ช่วยกันตบๆ ลูบๆไปตามแนวโพรงขนเลยค่ะ สาว ๆ ลองสังเกตดูซิคะว่า ผิวมันดูเนียนขึ้น จริง ๆนะเอออ ^^

ขอบคุณพี่บีมมากนะครับที่ชี้ทางสว่างและทำให้สิวหายจากหน้าซะที
XOXO ,
Happy Nucha
Happy Nucha